JA Cpanel
  •  

DooHealthy

RSSเว็บไซต์นี้ให้ข้อมูลความรู้และคำปรึกษาปัญหาสุขภาพต่างๆ เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง

ไข้รูมาติก

ไข้รูมาติกอาการ มักเกิดหลังอาการอักเสบ หรือต่อมทอนซิลอักเสบประมาณ 1-4 วัน จะเริ่มปวดตามข้อที่มีขนาดใหญ่

 

อย่างเช่น หัวเข่า ข้อศอก ข้อเท้า ข้อมือ โดยที่ข้อเหล่านั้นมีอาการอักเสบ บวมแดง ปวดมากโดยเริ่มปวดทีละข้อสองข้อก่อน แล้วค่อยๆ ลุกลามต่อไป มักจะเป็นมากกว่าหนึ่งข้อ แต่ละข้อจะมีอาการอักเสบอยู่นาน 5-10 วัน แล้วหายปวดบวมได้เองแม้ไม่ได้รักษา

นอกจากมีอาการปวดข้อแล้วยังเกิดการอักเสบของอวัยวะต่างๆ เพราะร่างกายมีการสร้างภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติกับเชื้อ มักมีอาการอักเสบของหัวใจร่วมด้วย ถ้าเป็นไม่มากอาจไม่แสดงอาการให้เห็นชัดเจน ถ้าเป็นรุนแรงอาจทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น หอบ นอนราบไม่ได้ บางรายทำให้กลายเป็นโรคหัวใจรั่ว ลิ้นหัวใจอักเสบ หัวใจวาย ซึ่งพบประมาณร้อยละ 30 ของผู้ป่วยโรคไข้รูมาติกจะมีความพิการที่หัวใจด้วย โดยอาจเป็นทั้งตีบและรั่วในขณะเดียวกันที่ลิ้นเดียว หรือหลายลิ้นได้

บางคนอาจมีผื่นลักษณะคล้ายแผนที่ตามลำตัว แขน ขา อาจมีตุ่มเล็กๆ ที่ผิวหนัง บริเวณหลังมือ หน้าเข่า หลังเท้า ข้อเท้า ข้อมือ ตุ่มนี้จะค่อยๆ ยุบได้เอง ใช้เวลาหลายสัปดาห์ ถ้าพบมักแสดงว่ามีการอักเสบของหัวใจร่วมด้วย บางคนอาจมีอาการผื่นแดงขึ้นแผ่ออกโดยรอบ เป็นวงขอบแดง ตรงกลางขาว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-3 เซนติเมตร ไม่เจ็บ ไม่คัน และจางหายได้เองอย่างรวดเร็ว ถ้าพบมักแสดงว่ามีการอักเสบของหัวใจร่วมด้วย

สาเหตุ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชื่อว่า เบตา - สเตรปโตคอคคัส กลุ่มเอ ติดต่อง่ายมาก ทางเดียวกับไข้หวัดคือ ทางระบบหายใจ ไอ จาม รดกันเข้าทางจมูกและเข้าทางปากด้วย เชื้อผ่านเข้าไปทำให้มีการอักเสบที่คอหอยและบริเวณต่อมทอนซิล เมื่อไม่ได้รับการรักษาหรือร่างกายมีการตอบสนองต่อการติดเชื้อนี้ผิดปกติ โดยร่างกายสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาทำลายตนเอง จึงทำให้เกิดการอักเสบของอวัยวะหลายระบบ เช่น ผิวหนังอักเสบ ระบบประสาทผิดปกติเกิดชัก หรือเคลื่อนไหวผิดปกติ ปวดตามข้อหลายๆ ข้อ และหัวใจอักเสบซึ่งเป็นได้ตั้งแต่เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ลิ้นหัวใจอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

ไข้รูมาติก พบมากในเด็กอายุ 5-15 ปี มักพบในประเทศกำลังพัฒนาในครอบครัวที่ฐานะค่อนข้างยากจน บริเวณชุมชนแออัด โรงเรียน สถานเลี้ยงเด็กหรือที่ๆ มีผู้คนอยู่หนาแน่น ไข้รูมาติกจัดว่าเป็นสาเหตุของโรคลิ้นหัวใจพิการที่พบบ่อยที่สุดในประเทศไทย โดยผู้ใหญ่ที่เป็นโรคหัวใจรูมาติกนั้นเป็นมาตั้งแต่วัยเด็กแล้ว

การรักษา แพทย์ซักถามประวัติ ตรวจร่างกาย อาจตรวจพบความผิดปกติของหัวใจ เช่น เต้นไม่สม่ำเสมอ หรือใช้เครื่องฟังตรวจมีเสียงฟู่ เป็นต้น ซึ่งมักจะพบตรงบริเวณใต้ราวนมซ้าย ถ้าเป็นรุนแรงอาจพบอาการของหัวใจวาย เช่น หอบ บวม เป็นต้น ใช้เครื่องฟังตรวจปอดมีเสียงกรอบแกรบ ผู้ป่วยมักจะต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล อาจต้องวินิจฉัยโดยการตรวจเลือด (ตรวจ ESR, ASO titer) ตรวจคลื่นหัวใจ เอกซ์เรย์ปอด

แนวทางการรักษา

  1. รักษาการติดเชื้อ โดยใช้ยาปฏิชีวนะเพนนิซิลลินวี หรืออีริโทรมัยซิน อย่างน้อย 10 วัน
  2. ใช้ยาลดการอักเสบที่เกิดขึ้น ด้วยยาที่ได้ผลดีคือ แอสไพริน ในขนาดสูง 2-4 เม็ด ทุก 6 ชั่วโมง หรือรักษาข้ออักเสบด้วยยาโซเดียมซาลิซัยเลต และฮอร์โมนสเตียรอยด์ หายใน 5-10 วัน
  3. ในรายที่มีอาการหัวใจอักเสบรุนแรง อาจเพิ่มสเตียรอยด์ เช่น เพรดนิโซโลน เป็นต้น ถ้ามีภาวะหัวใจวาย ก็ให้การรักษาแบบภาวะหัวใจวาย
  4. หากควบคุมแขนขาไม่ได้ แพทย์ใช้ยาควบคุมการเคลื่อนไหว
  5. หากเกิดลิ้นหัวใจพิการ การรักษาอาจเพียงขยายลิ้นหัวใจที่ตีบ ผ่าตัด ซ่อมแซมลิ้นหัวใจ หรือต้องผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ ทั้งนี้ไม่ว่าจะรักษาด้วยวิธีใดก็ไม่หายขาด

เมื่ออาการหายดีแล้ว แพทย์จะนัดผู้ป่วยมาตรวจรักษาเป็นประจำ โดยจะให้ยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นระยะยาวเพื่อป้องกันมิใช้ลิ้นหัวใจพิการ กลายเป็นโรคหัวใจรูมาติก ในรายที่เป็นโรคหัวใจรูมาติก ใช้เครื่องหัวใจได้ยินเสียงฟู่ ต้องกินยาปฏิชีวนะดังกล่าวไปตลอดชีวิต ซึ่งจะช่วยให้มีชีวิตยืนยาวไปได้นาน

การดูแลตนเอง ผู้ป่วยควรทำงานไปตามกำลัง อย่าได้ฝืนร่างกาย และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรง งดสุรา น้ำชา กาแฟ น้ำเย็นๆ

Julius

นาฬิกาดีไซน์ความหลากหลายให้เข้ากับสไตล์ของคุณ More...

G-SHOCK

ต้นแบบเฉพาะตัวกับตัวเครื่องคุณภาพความทนทาน More...

Edifice

Edifice นาฬิกาลูกผู้ชาย ทรงอิทธิพลด้วยดีไซน์ที่เร้าใจ More...

Consultant



↑ เพิ่มเพื่อนจากทาง Line เพื่อปรึกษาปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้ที่นี่...

Latest Posts

Map