JA Cpanel
  •  

DooHealthy

RSSเว็บไซต์นี้ให้ข้อมูลความรู้และคำปรึกษาปัญหาสุขภาพต่างๆ เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง

ยารักษาโรคจิต

ยารักษาโรคจิตยารักษาโรคจิต หรือ Antipsychotic Drugs หรือ Neuroleptic Drugs นี้บางครั้งเรียกว่า ยากล่อมประสาท

 

(transquillizer) เป็นยาที่ช่วยลดอาการทางจิตโดยตรง นิยมใช้ในผู้ป่วยโรคจิตเภท ผู้ป่วยคลุ้มคลั่ง ผู้ป่วยหวาดระแวง ผู้ป่วยมีอาการสมองเสื่อม รวมถึงผู้ที่อยู่ในภาวะไม่สามารถติดต่อสื่อสารได้ มีความคิดสับสน มีอาการหลงผิดประสาทหลอน ยากลุ่มนี้จะไปยับยั้งการทำงานของ dopamine ทำให้การเปลี่ยนแปลงทางเคมีของสมองเป็นปกติ ผู้ป่วยสงบลง สามารถติดต่อกับบุคคลอื่นได้

ยารักษาโรคจิตเป็นยาสำคัญที่ใช้ในการรักษาอาการทางจิตเวชที่ได้ผลเป็นอย่างมาก ในปี 1952 เริ่มมีการค้นพบยา Chlorpromazine ว่าสามารถนำมาใช้ลดอาการทางจิตได้ผลและนิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง ปัจจุบันได้มีการผลิตยาอีกหลายชนิดได้แก่ Serotonin Dopamine atagonists เช่น Clozapine ซึ่งมีผลดีในการรักษาโรคจิตเภท มีฤทธิ์ทำให้เกิดอาการ extrapyramidal symptom คืออาการเคลื่อนไหวผิดปกติ น้อยกว่ายากลุ่มเดิม

ยารักษาโรคจิตนี้เป็นยาหลักที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคจิตเภท (Schizophrenia) ผู้ป่วยโรคทางจิตเวชที่เกิดจากพยาธิสภาพทางกาย (Organic Brain Syndrome) โรคอารมณ์แปรปรวนแบบไบโพลาร์ (Bipolar disorder) บางครั้งอาจรักษาผู้ป่วยที่คลื่นไส้อาเจียน Vertigo และลดอาการปวด ยาในกลุ่มนี้คือ Phenothiazine, Thioxanthene, Butyrophenone, Dibenzoxazepine และ Dihydroindole

Phenothiazines ยากลุ่มนี้มีประสิทธิภาพในการทำให้ผู้ป่วยสงบลง มักใช้ได้ผลดี โดยเฉพาะใน 6 สัปดาห์ จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอารมณ์สงบและดำเนินชีวิตอยู่ได้ดี อาจใช้ร่วมกับยารักษาอารมณ์เศร้า (antidepressant) หรือการรักษาด้วยไฟฟ้า (ECT) ในผู้ป่วยจิตเวชที่มีอาการเศร้ามาก

ยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ ยาพวก Chlorpromzine (Thorazine), Thioridazine (Mellaril), Fluphenazine (Prolixin), Perphenazine (Trilafon), Mesoridazine (Serentill) และ Trifluoperazine (Stelazine) เป็นต้น ฤทธิ์ของยานี้ ไม่ก่อให้เกิดอาการติดยาแม้จะใช้เป็นเวลานาน หรือใช้ปริมาณสูงก็ตามและไม่ทำให้สติปัญญาเสื่อม แต่อาจมีผลทำให้ระดับการรับรู้และความสนใจสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการเคลื่อนไหวลดน้อยลง

ข้อควรระวังในการใช้ยานี้

การใช้ยานี้ควรระมัดระวังในผู้ป่วยดังนี้

1. ผู้ป่วยที่มีประวัติการใช้ยามาแล้วหลายๆ ชนิด ผู้ป่วยโรคกระดูก และโรคสมองเสื่อม
2. ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคตับ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคต้อหิน โรคเบาหวาน โรคปาร์กินสัน โรคแผลกระเพาะอาหาร โรคลมชัก และหญิงตั้งครรภ์
3. อาการข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยากลุ่ม Phenothiazine นี้ก็คือ

- ง่วงนอน หาวบ่อย กิจกรรมต่างๆ ลดลง ต้องระมัดระวังในผู้ที่ขับรถและทำงานกับเครื่องจักรกล
- อาการปากแห้ง คอแห้ง ตาพร่ามัว
- ผิวหนังเป็นผื่นคัน
- ท้องผูก ปัสสาวะลำบาก
- ความดันโลหิตต่ำใน 2 สัปดาห์แรกที่ใช้ยานี้
- ความรู้สึกทางเพศลดลง
- Agranulocytosis พบภายหลังใช้ยา 8 สัปดาห์
- ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
- E C G เปลี่ยนเล็กน้อย
- อึดอัดในลำไส้และกระเพาะอาหาร คลื่นไส้ และ heartburn
- บวม

Thioxanthenes ยากลุ่มนี้มีลักษณะดีคล้ายพวกยาในกลุ่ม Phenothiazine แต่มีฤทธิ์ทั้งกระตุ้นและลดพฤติกรรม นิยมใช้ในผู้ป่วยจิตเภท และผู้ป่วยโรคอารมณ์แปรปรวนที่อยู่ในระยะเศร้า

Butyrophenones ยากลุ่มนี้มีประสิทธิภาพในการลดพฤติกรรมวุ่นวายผู้ป่วยประเภท catatonic excitement และผู้ป่วยจิตเภทเรื้อรัง ยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Haloperidol ซึ่งมีฤทธิ์เสริมยาแก้ปวด ยาสลบ และยานอนหลับ ต้องระวังเมื่อใช้ร่วมกับยาเหล่านี้

ข้อควรระวังในการใช้ยานี้

อาการข้างเคียงที่เกิดจากฤทธิ์ของยารักษาโรคจิตที่จะต้องระมัดระวังก็คือ

- Acute dystonia เป็นอาการที่มักเกิดใน 2-3 วันแรกหลังจากผู้ป่วยได้รับยา โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อายุน้อย อาจมีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณศีรษะขากรรไกรแข็ง ลิ้นจุกปาก ปากสั่น กลืนลำบาก
- Drug-induced parkinsonism มีอาการสั่น (tremor) น้ำลายไหลมักเกิด หลังให้ยาแล้ว 1 สัปดาห์ขึ้นไป
- Akathesia มีอาการกระสับกระส่าย ไม่อยู่นิ่ง นั่งไม่ติด
- Tadive dyskinesia มีการขยับของกล้ามเนื้อบริเวณปาก ลิ้น ใบหน้า แขนขา หรือลำตัว เกิดจาก dopamine receptor hypersensitivity
- Drawsiness อาการง่วง ซึม

การแก้ไข แพทย์จะให้ยา Antiparkinson agent พวก Cogentin 2-4 mg. รับประทาน หรืออาจฉีดในรายเร่งด่วน

Julius

นาฬิกาดีไซน์ความหลากหลายให้เข้ากับสไตล์ของคุณ More...

G-SHOCK

ต้นแบบเฉพาะตัวกับตัวเครื่องคุณภาพความทนทาน More...

Edifice

Edifice นาฬิกาลูกผู้ชาย ทรงอิทธิพลด้วยดีไซน์ที่เร้าใจ More...

Consultant



↑ เพิ่มเพื่อนจากทาง Line เพื่อปรึกษาปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้ที่นี่...

Latest Posts

Map