DooHealthy

อาการ ของโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ จะมีอาการน้ำมูกไหล คัดจมูก เคืองจมูก แสบคอ จามเหมือน

ไข้หวัด เป็นๆ หายๆ อย่างเรื้อรัง

สาเหตุ เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฏิกิริยากับโปรตีนหรือสารก่อภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อม ซึ่งปกติจะไม่มีอันตรายสำหรับคนทั่วไป ปฏิกิริยานี้ทำให้มีการหลั่งสารฮีสตามีนขึ้นที่เนื้อเยื่อต่างๆ เช่น จมูก ทางเดินหายใจ ปอด เป็นต้น ทำให้เกิดการอักเสบ และแสดงอาการออกมา

ผู้ที่เสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้

• กรรมพันธุ์ ผู้ที่มีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว จะเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย
• สิ่งแวดล้อมของเด็กในขวบปีแรกสำคัญมาก หากได้รับมลพิษ ควันบุหรี่ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ สะเก็ดรังแคสัตว์ การใช้ยาปฏิชีวนะมาก จะทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ง่าย แต่การเลี้ยงทะนุถนอมมาก ไม่ให้เล่นดิน เล่นทราย ก็ทำให้มีปัญหาภูมิแพ้ได้ง่ายเช่นกัน
• เด็กทารกกินนมแม่น้อยลง ดื่มนมกระป๋อง จะเป็นภูมิแพ้ง่าย
• การติดเชื้อไวรัสในวัยเด็ก การใกล้ชิดสัตว์บ้าง เล่นดินบ้าง จะลดโอกาสในการเป็นภูมิแพ้
• การอยู่แต่ในบ้าน ติดเครื่องปรับอากาศ ไม่ออกกำลังกาย ทำให้เป็นภูมิแพ้ได้ง่าย

สารก่อโรคภูมิแพ้ได้แก่ ไรฝุ่น พบมากบนที่นอน โซฟา สะเก็ดรังแคสัตว์ น้ำลาย และเหงื่อของสัตว์เลี้ยง ขนนก ของเสียแมลงสาบ ละอองเกสร สปอร์ของเชื้อรา

การรักษา ยาแก้แพ้เป็นยาหลักสำหรับการรักษาโรคภูมิแพ้ ช่วยลดอาการจาม คันจมูก น้ำมูกไหล แต่ไม่ลดอาการคัดจมูก สามารถลดอาการคันตา และคันหู ยาแก้แพ้ส่วนใหญ่ออกฤทธิ์เร็ว มีผลข้างเคียง เช่น อาการปากแห้ง ทำให้เกิดการง่วงซึม เป็นต้น

ยาแก้คัดจมูก จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้เลือดไปที่เยื่อบุจมูกลดลง มีผลเสียต่อร่างกายดังนี้

• ทำให้ความดันโลหิตสูง ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ก่อนจะใช้ยาควรจะปรึกษาแพทย์
• กระสับกระส่าย มือสั่น นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ใจสั่น มือสั่น หัวใจเต้นผิดปกติ
• ปากแห้ง คอแห้ง ตาแห้ง
• มีอาการคั่งของปัสสาวะ

ยาแก้คัดจมูกอาจจะเป็นยาที่ผสมกันระหว่างยาแก้แพ้และยาแก้คัดจมูก เช่น แอคติเฟด คาร์ริเนส เป็นต้น ยาบางชนิดมียาลดไข้ร่วมด้วย ดังนั้นเมื่อเลือกยาที่มีส่วนผสมแล้วอย่าได้ทานยาที่มีฤทธิ์ซ้ำซ้อนอีก และเลือกใช้ให้ตรงกับอาการเท่านั้น

นอกจากนี้ยังต้องป้องกันสารกระตุ้นภูมิแพ้ โดย

• ถ้าห้องมีความชื้นมากควรเปิดให้อากาศถ่ายเทให้มาก
• หากแพ้เกสรควรปิดหน้าต่าง โดยเฉพาะช่วงที่มีเกสรดอกไม้มาก
• ไม่เลี้ยงสัตว์ที่มีขนไว้ในบ้าน โดยเฉพาะในห้องนอน
• หมั่นเช็ดฝุ่น ทำความสะอาดบ่อยๆ
• กำจัดไรฝุ่นบนที่นอน หมอน เครื่องนอน ควรจะซักและต้มสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
• กำจัดเศษอาหารให้มิดชิด เพื่อป้องกันแมลงสาบ