อาการ มีอาการปวดคอเรื้องรัง เป็นๆ หายๆ บางรายเวลาแหงนคอก็มีอาการปวดร้าวไปบริเวณสะบักหรือ
หัวไหล่ บางรายไม่มีอาการปวดคอ แต่รู้สึกปวดไหล่ ร้าวไปถึงข้อศอก ปวดล้า เมื่อย อาจจะมีอาการชาร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ อาการที่เด่นชัดมากของกระดูกคอเสื่อมกดทับเส้นประสาท คือ มีอาการปวดคอร้าวไปแขน อาจเหมือนมีไฟช็อตร้าวจากคอไปบริเวณข้อศอกหรือนิ้วมือ เสียวแปลบๆ ต่อมาอาการเสียวดีขึ้น แต่รู้สึกชาและปวดแขน แขนล้าไม่มีแรง ถ้ามีการกดทับเส้นประสาทอย่างรุนแรงก็ทำให้เดินไม่ได้ หรือควบคุมการอุจจาระ ปัสสาวะไม่ได้
การเสื่อมมักเริ่มที่หมอนรองกระดูกคอ เมื่อมีการเสื่อมมากขึ้น ข้อต่อก็จะมีการหลวม ไม่มั่นคง ทำให้ร่างกายผู้ป่วยปรับสภาพโดยการพยายามสร้างกระดูกขึ้นมาตรงบริเวณที่มีการเสื่อมนั้น เรียกว่า หินปูน หรือ กระดูกงอก ก็จะส่งผลให้ขยับเคลื่อนไหวได้น้อยลง อาการปวดคอของผู้ป่วยก็จะดีขึ้น แต่กระดูกงอกหรือหินปูนดังกล่าวหากเกิดบริเวณตำแหน่งใกล้กับเส้นประสาทก็จะทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทได้ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดชาแขนไปตามส่วนที่เส้นประสาทไปเลี้ยง ในผู้ป่วยอายุน้อยการเกิดกดทับเส้นประสาทจากหินปูนจะพบน้อย เนื่องจากกระดูกคอยังเสื่อมไม่มาก
ปัจจัยเสี่ยงทำให้กระดูกคอเสื่อม คือ
- การใช้งานในอิริยาบถและทำผิดลักษณะ เช่น
- ก้มหน้าทำงานนาน
- เงยหน้าทำงานนาน
- นอนหนุนหมอนที่สูงมาก ทำให้คออยู่ในท่างอผิดปกติ
- การนอนดูโทรทัศน์
- การนอนคอพับ การยืนผิดท่า
หากมีการใช้ท่าที่ผิดลักษณะนานๆ จนเป็นนิสัย ทำให้กระดูกคอเสื่อมเร็วขึ้นได้
- อายุที่มากขึ้นจะมีภาวะกระดูกคอเสื่อมไปตามวัย
- บุหรี่ เป็นปัจจัยทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงกระดูกสันหลัง
- การได้รับอุบัติเหตุที่ทำให้กระดูกคอเกิดการกระแทกหรือคอมีการเหวี่ยงอย่างรุนแรง อาจทำให้เกิดการฉีกขาดของหมอนรองกระดูก
- การเล่นกีฬาบางชนิด เช่น โหม่งลูกฟุตบอล ลูกตะกร้อ ทำให้เกิดการกระแทกบริเวณศีรษะหรือคอบ่อยๆ เป็นต้น
- การมีโรครูมาตอยด์ โรคข้ออักเสบยืดติด โรคกระดูกพรุน
การรักษา ขณะปวดอักเสบควรพักผ่อนนอนราบ เพื่อที่กระดูกคอไม่ต้องแบกรับน้ำหนักใช้กระเป๋าน้ำร้อน ประคบบริเวณคอ 10-15 นาที ถ้าปวดมากให้ใช้ปลอกคอ ช่วยพยุงคอไว้ 1 สัปดาห์ และทานยาแก้ปวด ซึ่งได้แก่ กลุ่มพาราเซตามอล ยาคลายกล้ามเนื้อ หรืออาจจะใช้ยาทานวดช่วยได้ ประคบร้อนหรือประคบเย็น บริเวณที่ปวดนาน 15-20 นาที วันละหลายครั้ง หากอาการยังไม่ทุเลาควรเลือกทานยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น นาโพรเซน ไอบูโพรเฟน เพื่อลดอาการอักเสบ และบรรเทาปวดร่วมกับการบีบนวดลำคอ และไหล่เบาๆ เพื่อลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ
ไม่ควรนวดจับเส้นในระยะปวดเฉียบพลัน เพราะจะทำให้อาการอักเสบมากยิ่งขึ้น
การบริหารคอ เพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อต่อกระดูกคอ และบริหารกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอให้แข็งแรง ท่าเดียวกับที่ใช้แก้ปัญหาโรคปวดกล้ามเนื้อคอ
การทำกายภาพ เช่น การดึงคอโดยนักกายภาพบำบัดช่วยทำให้อาการดีขึ้นได้
หากรักษาด้วยยาและกายภาพบำบัด 6-8 สัปดาห์แล้วไม่ดีขึ้น ยังคงมีอาการปวดตลอดเวลา หรือมีอาการชา หรือแขนอ่อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ช่วยให้เห็นหมอนรองกระดูกสันหลัง เส้นประสาท ไขสันหลัง ตลอดจนตำแหน่งและความรุนแรงการกดทับเส้นประสาทได้ จากนั้นอาจต้องรักษาโดยการผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาในขั้นสุดท้าย ผ่าตัดเข้าไปเอาส่วนหมอนรองกระดูก และหินปูน หรือกระดูกงอก ซึ่งกดทับเส้นประสาทออกแล้วเชื่อมกระดูกที่เสื่อมเข้าด้วยกัน ด้วยการใส่กระดูกเทียม มีการใช้โลหะเหล็กไททาเนียมช่วยดาม ถ้ากรณีมีการเชื่อมกระดูกหลายๆ ข้อ เพื่อให้เกิดความมั่นคง สามารถใส่ตลอดชีวิตได้ ผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลไม่เกิน 5 วัน ก็สามารถลุกยืนเดิน ทำกิจวัตรประจำวันได้เป็นปกติ