อาการ มีตั้งแต่อาการน้อยถึงรุนแรงมากจนเกิดภาวะช็อกได้ อาการที่ชัดเจน คือ มักมีการทำงานของกล้ามเนื้อ
หัวใจลดลง หรือร่วมกับจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติได้ เช่น หายใจเร็วกว่าปกติมาก ชีพจรเต้นเบา มือและเท้าเย็น หรือหายใจช้าเกินไป และช็อก จนถึงเสียชีวิต
พวกที่อาการรุนแรงมาก โดยเฉพาะในเด็กทารกแรกคลอด มีโอกาสเสียชีวิตได้ง่ายมากในเวลา 2-3 วัน การดำเนินของโรคจะรุนแรงและเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ จนไม่เหลือกล้ามเนื้อหัวใจส่วนที่ดีพอจะให้หัวใจทำงานได้ ทำให้เกิดภาวะช็อกจนทำให้เสียชีวิต
ผู้ป่วยที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบชนิดรุนแรงนั้น แม้ว่าในปัจจุบันจะมียาบางชนิดซึ่งอาจจะช่วยได้บ้างให้รอดชีวิตได้ ผู้ป่วยก็มักจะไม่หายขาดจากโรคหัวใจ เพราะกล้ามเนื้อหัวใจก็ไม่สามารถกลับสู่สภาพปกติได้ กลายเป็นผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวตลอดไป หากจะปลูกถ่ายหัวใจหรือการเปลี่ยนหัวใจใหม่ ซึ่งก็มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเช่นเดียวกัน
สาเหตุ เกิดจากการติดเชื้อโรคซึ่งอาจเป็นไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา หรือพยาธิ หรือเกิดจากโรคที่มีความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน เช่น โรคเอสแอลอี โรครูมาตอยด์ โรคไข้รูมาติก เป็นต้น ไปทำลายหัวใจให้เกิดการอักเสบเสียหายไปจนกระทั่งหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปรับออกซิเจนที่ปอดและไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างเพียงพอ จนอาจทำให้เกิดภาวะปอดบวมน้ำและภาวะช็อก
โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบอาจเกิดพร้อมกับโรคอื่นๆ ที่เกิดการอักเสบทั่วร่างกายได้ ทั้งนี้การยกของหนักอาจทำให้กล้ามเนื้อของร่างกายที่ใช้ในการยกของอักเสบตามมาได้
การรักษา ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที แพทย์วินิจฉัยได้โดยจะมีการฟังเสียงหัวใจเต้นผิดปกติ (echocardiography) เอกซเรย์พบหัวใจโต คลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ และตรวจเลือดพร้อมกับให้การรักษาในทันที การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ
การป้องกัน สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหรือติดเชื้อไวรัส เช่น หวัด มีอาการเจ็บป่วยใดๆ ก็ตามควรรีบรักษาให้หาย หรือหากเป็นโรคเรื้อรังควรทานยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อควบคุมโรคให้สงบ ร่างกายแข็งแรง