สิ้นปีเก่า 2554 ต้อนรับปีใหม่ 2555 ช่วงเวลาหนนึ่งปีผ่านไปไวอย่างกับโกหก เมื่อหันมามองลูกน้อยจาก
เด็กหนึ่งขวบกลายเป็นเด็กสองขวบ จากเด็กสองขวบก็จะกลายเป็นเด็กสามขวบซะแล้วสิคะ โอว...เมื่อถึงวัย 2-3 ขวบของลูกก็เท่ากับได้เริ่มเข้าสู่ฤดูของการตระเวนหาโรงเรียนอนุบาลให้กับลูกแล้วล่ะค่ะ ที่แม่เกศเรียกเป็นฤดูก็เป็นเพราะคุณพ่อคุณแม่บางท่านต้องใช้เวลาเตรียมตัวหาข้อมูลของโรงเรียนทั้งจากสอบถามคนรู้จัก ค้นหาจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่พอสืบค้นได้ รวมถึงเดินทางไปเยี่ยมชมโรงเรียนด้วยตัวเองเป็นเวลาหลายเดือนหรืออาจจะใช้เวลาเป็นปีก็ได้นะคะ แนวทางในการเลือกโรงเรียนของแต่ละบ้านก็แตกต่างกันไป เช่น บางบ้านเลือกจากทำเลใกล้บ้านหรือที่ทำงานเพื่อสะดวกในการรับส่งลูก บางบ้านเลือกจากแนวการศึกษาของโรงเรียนที่ปัจจุบันมีทั้งแนววิชาการ บูรณาการหรือเตรียมความพร้อมในรูปแบบที่ต่างกันออกไป บางบ้านเลือกจากวิถีชีวิตภายในโรงเรียนไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ จำนวนเด็กนักเรียนต่อคุณครู ความสะอาด ความกว้างขวาง อุปกรณ์การเรียนการสอนที่ครบครัน กิจกรรมภายในโรงเรียน ความร่มรื่นของโรงเรียน บางบ้านเลือกโรงเรียนที่ลูกสามารถเรียนไปจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 บางบ้านเลือกโรงเรียนอนุบาลที่ลูกจะสามารถสอบเข้าโรงเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามต้องการได้ ฯลฯ หรืออาจจะเป็นทางเลือกที่กล่าวมานั้นนำผสมผสานกันให้เป็นการเลือกโรงเรียนอนุบาลที่ถูกใจคุณพ่อคุณแม่ค่ะ
สำหรับแนวทางในการเลือกโรงเรียนอนุบาลของแม่เกศที่นำมาแชร์ประสบการณ์กัน ประเด็นแรกมองจากมองสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวเป็นหลักคือ รับส่งสะดวก ใช้เวลาเดินทางไม่ไกลนักก่อนที่จะถึงโรงเรียน เพราะเราและลูกต้องเดินทางแบบนี้ ทุกวันเป็นเวลาหลายปี โรงเรียนที่ต้องตื่นแต่ฟ้ายังไม่สาง ปลุกลูกแล้วพาไปนอนในรถแล้วไปตื่นตอนถึงโรงเรียน จับแต่งตัว ทานข้าวแล้วเข้าโรงเรียนแบบนี้ ไม่ค่อยจะอยู่ในทางเลือกอันดับต้นๆ ค่ะ แม่เกศเห็นว่าเด็กอายุ 2-3 ขวบยังดูเล็กเกินไปที่จะต้องมีวิถีชีวิตแบบนี้ แต่ถ้าไม่มีทางเลือกจริงๆ และลูกจำเป็นต้องปรับตัวให้เป็นแบบนั้นต้องทำใจยอมรับสภาพ เริ่มแรกลูกอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวบ้างแต่เมื่อทำซ้ำๆ นานๆ เข้าก็เริ่มชินและจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูกไปเองค่ะ เมื่อได้รายชื่อโรงเรียนที่ตรงใจแล้ว แม่เกศจะเริ่มสืบเสาะข้อมูลโรงเรียนที่โดนใจตามประเด็นแรกโยไม่ลืมที่จะพิจารณาถึงประเด็นที่สองในใจคือ แนวการศึกษาของโรงเรียนและสภาพความเป็นอยู่ภายในโรงเรียน เมื่อนำมาประมวลภาพรวมของโรงเรียนคร่าวๆ ได้แล้วก็สอบถามข้อมูลจากโรงเรียนโดยการโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลเบื้องต้นอ่านความคิดเห็นของผู้ปกครองของโรงเรียนจากสื่อต่างๆ รวมถึงสอบถามจากเพื่อนหรือคนที่รู้จักโรงเรียนที่เราสนใจ ข้อมูลที่เราได้มาเบื้องต้นนี้คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องระวังในการรับข้อมูลด้วยนะคะ ข้อมูลมีทั้งด้านดีและด้านลบ ต้องเข้าใจว่าความคิดเห็นของผู้ปกครองแต่ละคนมาจากความคาดหวังในโรเรียนที่ลูกเรียนแตกต่างกันไป โรงเรียนจึงมีทั้งมุมมองที่ดีและไม่ดี ถ้าเราสามารถเลือกโรงเรียนที่สมบูรณ์แบบไม่มีข้อผิดพลาดเลยก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดีกับลูกค่ะ โรงเรียนก็เหมือนกับตัวเราที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียนั้นด้วยใจเป็นกลางได้แค่ไหนค่ะ หลังจากได้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนมาบ้างแล้วจึงนัดเวลาเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนเพื่อดูบรรยากาศและสถานที่จริงอีกครั้งก่อนการตัดสินใจ อันที่จริงก่อนแม่เกศจะเดินทางไปโรงเรียนก็คิดและตัดสินในระดับหนึ่งแล้วล่ะค่ะ
การเยี่ยมชมโรงเรียนจึงเป็นเหมือนการตอกย้ำความแน่ใจของความคิดที่แม่เกศคิดว่าถูกต้อง แต่ก็มีบ้างที่ไม่เป็นไปตามที่คิดและคาดหวังไว้ ซึ่งก็ไม่เป็นสิ่งที่น่ากังวลใจอะไรหากเราได้เลือกโรงเรียนสำรองไว้แล้วแต่ก็อย่าลืมนะคะ โรงเรียนบางแห่งมีคุณพ่อคุณแม่สนใจให้ลูกเรียนเยอะและรับนักเรียนต่อห้องต่อชั้น เรียนจำนวนจำกัด การเตรียมตัวและตัดสินใจล่วงหน้าก็เป็นสิ่งที่จำเป็นค่ะ
ตามที่แม่เกศกล่าวมาตั้งแต่ต้น หลักการเลือกโรงเรียนอนุบาลของคุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่เหมือนกันเนื่องจากวิถีชีวิตของแต่ละบ้านรวมถึงมีจุดประสงค์ทางการศึกษาที่ต่างกัน แม่เกศเชื่อว่าไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่แต่ละท่านจะมีแนวทางในการเลือกโรงเรียนอนุบาลให้กับลูกแบบไหนก็ตาม สิ่งที่เหมือนกันคือ ต้องการหาโรงเรียนที่ดีและเหมาะสมให้กับลูกที่เรารัก สังคมแรกนอกบ้านของลูกที่ชื่อว่า โรงเรียนจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ทางการศึกษาที่สามารถส่งผลต่อการเรียนรู้และการศึกษาในขั้นสูงต่อไปในอนาคตของลูกนะคะ ขอให้ประสบความสำเร็จกับการเลือกโรงเรียนอนุบาลที่ดี ถูกใจทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกค่ะ