DooHealthy

พื้นฐานการศึกษาทางวิชาชีพของผมจัดว่าจำกัดมาก หากเมื่อพูดถึงวิตามิน วิชาต่างๆ ที่ผมเรียนไม่ว่าจะเป็น

เภสัชวิทยา เคมีชีวะ เคมีอินทรีย์ เคมีอนินทรีย์ และสาธารณสุข ล้วนพูดถึงวิตามินน้อยมาก นอกจากในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับโรคจากการขาดวิตามิน ขาดวิตามินซีก็เป็นโรคเลือดออกตามไรฟัน ขาดวิตามินบี 1 หมายถึงโรคเหน็บชา ได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอ ก็ทำให้เป็นโรคกระดูกอ่อน สิ่งที่ผมเรียนล้วนเป็นเรื่องพื้นฐานทั่วไป คือแนะนำให้รับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ และรับประทานอาหาร "ที่มีประโยชน์" (ซึ่งมักมีภาพอาหารที่ไม่ชวนให้รับประทานแสดงบนตารางกระดาษอาบมัน) ไม่มีบทเรียนที่กล่าวถึงการใช้วิตามินในแง่การป้องกันโรคหรือการส่งเสริมให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงขึ้นเลย

ปี 1965 ผมได้เปิดร้านขายยาร้านแรก ก่อนหน้านั้นผมไม่เคยตระหนักเลยว่าคนเรากินยากันมากขนาดไหน ไม่เพียงแต่กินเพื่อรักษาโรค แต่รวมไปถึงการกินยาเพื่อให้ยืนหยัดผ่านพ้นวันไปได้ (ผมมีลูกค้าประจำคนหนึ่ง เขามีใบสั่งยาสำหรับยาสารพัดที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของทุกระบบในร่างกาย โดยที่เขาไม่ได้ป่วยเป็นอะไรเลย)

หุ้นส่วนของผมในเวลานั้นมีความรู้ด้านวิตามินเป็นอย่างดียิ่ง เราทั้งคู่ต่างก็ทำงานวันละ 15 ชั่วโมง แต่มีเพียงผมที่แลดูโทรมและเหนื่อยล้า เมื่อผมถามเขาว่าเคล็ดลับของเขาคืออะไร เขาบอกว่ามันไม่ใช่เคล็ดลับแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่เป็นเพราะวิตามินต่างหาก ผมตระหนักทันทีว่าสิ่งที่เขาพูดถึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรคเลือดออกตามไรฟันหรือเหน็บชา แต่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวผมทันใดนั้นเองผมกลายมาเป็นนักเรียนผู้กระหายความรู้ และไม่เคยรู้สึกเสียใจเลยกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้น เขาสอนผมเกี่ยวกับคุณประโยชน์ที่จะได้รับจากอาหารธรรมชาติในรูปของวิตามิน วิตามินบีรวมและซีช่วยคลายความเครียดได้อย่างไร วิตามินอีช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทนทานให้ร่างกายได้อย่างไร และ วิตามินบี 12 ช่วยกำจัดความอ่อนล้าได้อย่างไร หลังจากที่ตกลงใจรับประทานวิตามินเสริมสูตรพื้นฐานที่สุดดูระยะหนึ่ง ผมไม่เพียงแต่เข้าใจ แต่ยังเปลี่ยนใจตั้งแต่นั้นมา

โภชนาการกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม ณ บัดนั้น ผมอ่านหนังสือทุกเล่มที่เกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าที่สามารถหาอ่านได้ ตัดเก็บบทความและตามอ่านไปถึงแหล่งที่มา ขุดตำราตั้งแต่สมัยเรียนเภสัชขึ้นมาอ่าน และพบว่าแท้จริงแล้ว วิชาชีวเคมีกับเรื่องโภชนาการมีความเกี่ยวข้องกันอย่างน่าอัศจรรย์ ผมเข้าฟังการบรรยายในเรื่องสุขภาพทุกครั้งที่มีโอกาส อันที่จริงแล้วผมได้เรียนรู้เรื่องผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูตรรวมอาร์เอ็นเอ-ดีเอ็นเอ และคุณสมบัติในการย้อนกระบวนการแก่ชราจากการฟังบรรยายครั้งหนึ่ง (ผมได้เริ่มรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาร์เอ็นเอ-ดีเอ็นเอตั้งแต่นั้นมา เช่นเดียวกับเอสโอดีหรือเอนไซม์ซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส และเพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเหล่านี้ ทำให้ทุกวันนี้คนมักทายอายุผมน้อยกว่าความเป็นจริง 5-10 ปี) ผมรู้สึกตื่นเต้นกับการค้นพบใหม่ๆ ในสาขาวิชานี้ และมันก็ได้แสดงผลให้เห็น

โลกใบใหม่ได้อ้าแขนต้อนรับผม และผมก็อยากที่จะแบ่งปันโลกใบนี้กับผู้อื่น หุ้นส่วนของผมเข้าใจเป็นอย่างดี เราเริ่มแจกจ่ายตัวอย่างวิตามินบีรวมและบี 12 ให้ลูกค้า แนะนำให้พวกเขาลองลดการรับประทานยากล่อมประสาทหรือยานอนหลับ แล้วหันมารับประทานวิตามินและอาหารที่เปี่ยมด้วยวิตามินทดแทน

ผลลัพธ์ที่ได้ยอดเยี่ยมมาก ทุกคนต่างกลับมาบอกเราว่าพวกเขารู้สึกดีขึ้นและมีกำลังขึ้นมากเพียงใด ต่างจากการรักษาด้วยยาที่มักจะมาพร้อมกับคำวิจารณ์ในแง่ลบ หรือความล้มเหลวในการับประทานต่อเนื่อง แต่เรากลับได้รับแต่คำชมแง่บวก ผมพบผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเคยใช้เวลาในวัยสาวเกือบทั้งหมดไปกับการพึ่งพาลิเบรียม (ยาคลายเครียด) วิ่งจากจิตแพทย์ไปหานักจิตบำบัดแล้วก็ต้องกลับไปหาจิตแพทย์ใหม่ ได้กลับกลายมาเป็นคนที่มีสุขภาพดี มีความสุขขึ้นและไม่จำเป็นต้องใช้ยาอีกต่อไป อีกทั้งสถาปนิกวัยหกสิบปีซึ่งร่ำๆ ว่าจะเกษียณเพราะสุขภาพย่ำแย่ กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้งและสามารถรับงานสร้างตึกที่กลายเป็นอาคารสำนักงานระดับแนวหน้าของนครลอสแอนเจลิสในปัจจุบัน และยังมีนักแสดงชายวัยกลางคนที่ต้องพึ่งยาอยู่ตลอด สามารถหยุดใช้ยาและได้รับบทตัวรองที่โดดเด่นในละครทีวี ซึ่งส่งผลให้เขาจัดเป็นดาราหนุ่มใหญ่ที่ยังรูปหล่ออยู่ในปัจจุบัน

ปี 1970 ผมทุ่มเทสุดตัวให้กับด้านโภชนาการและเวชศาสตร์ป้องกัน และเล็งเห็นว่าความรู้ในด้านนี้ยังขาดแคลนอยู่มาก ผมจึงได้ร่วมมือกับเภสัชกรท่านอื่นเพื่อจุดประสงค์หลักคือ ผลิตวิตามินธรรมชาติและเผยแพร่ข้อมูลทางโภชนาการที่ถูกต้องสู่สาธารณะ ทุกวันนี้ ในฐานะของนักโภชนาการ ผู้บรรยาย และผู้เขียนหนังสือ ผมยังคงตื่นเต้นกับโลกใบนี้ที่ได้เปิดรับผมเมื่อสามสิบปีก่อน โลกที่เติบโตด้วยข้อมูลใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และผมก็อยากจะแบ่งปันโลกใบนี้กับทุกๆ คนด้วย

อ้างอิง : ดร.เอิร์ล มินเดลล์